May 18, 2024, 09:29:56 PM
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
News
:
@ gps tracking
speed monitor
speed control
gps for car
gps tracking software @
Home
Help
Search
Login
Register
PanteeTHAI.com Map & GPS forum
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
บอร์ดทั่วไป (General Discussion)
>
ความรู้เกี่ยวกับ "เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก" (Car seats)
Pages: [
1
]
Go Down
« previous
next »
Print
Author
Topic: ความรู้เกี่ยวกับ "เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก" (Car seats) (Read 2829 times)
nuch
BG Group
Full Member
Posts: 154
ความรู้เกี่ยวกับ "เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก" (Car seats)
«
on:
September 15, 2010, 04:58:40 PM »
ความรู้เกี่ยวกับ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seats)
1.อุบัติเหตุรถยนต์เพียงแค่ 48.3 km/h ผู้โดยสารที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเป็น 30-60 เท่าของน้ำหนักตัวเอง
2.เข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อยึดตัวคุณเองไว้ในรถ และลดแรงกระแทกต่อตัวคุณ ลดโอกาสการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บหนักได้ถึง 50%
3.เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ แต่ละแบบถูกออกแบบสำหรับอายุเด็กที่แตกต่างกัน (รวมถึงขนาดรูปร่างเด็ก)
1.Rear-facing infant seats and Convertible seats (เบาะนั่งนิรภัยแบบหันไปด้านหลังรถ สำหรับเด็กแรกเกิด และแบบปรับเอนไปแบบที่นั่ง
2.Forward-facing child seats (เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันไปข้างหน้ารถ)
3.Booster seats แบบมีพนักพิงด้านหลัง และ Booster seat แบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง
4.เบาะนั่งนิรภัยแบบหันไปด้านหลังรถโดยปกติจะเหมาะกับเด้กน้ำหนักไม่เกิน 10 กก. หรือประมาณ 12 เดือน
5.สถานบัน NHTSA (Nation Highway Traffic Safety Administration) กล่าวไว้ว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรนั่งเบาะด้านหลังรถ
6.เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันไปด้านหลังรถจะปกป้องหัวของเด็ก คอ และกระดูกสันหลัง ได้มากกว่า
7.ประเภทของการรัดของเข็ดขัดนิรภัย
1.แบบ 3 จุด จะมีสายรัด 3 เส้น รัดตรงบ่า 2 ข้างลงมาเชื่อมล็อคใกล้ๆ ด้านล่างของที่นั่ง
2.แบบ 5 จุด จะมีสายรัด 5 เส้น 2 เส้นที่บ่า 2 เส้นที่สะโพก และอีกเส้นที่ เป้ากางเกง
3.แบบ Overhead shield จะมีเป็นคานป้องกันการกระแทกหรือการเหวี่ยงตัวของเด็ก
4.แบบ t-shield จะมีเป็นคานรูปสามเหลี่ยมอยู่ติดกับสายรัดช่วงบ่า
8.สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 1 ขวบและหนักกว่า 9 กก. ควรจะใช้เบาะนั่งนิรภัยแบบหันหน้า
9.ตามผลการวิจัยของสถาบัน NHTSA การให้เด็กนั่งด้านหลัง แทนการนั่งหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 27 % ไม่ว่ารถคุณจะมี airbag ด้านข้างหรือไม่ก็ตาม
10.เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กตัวใหญ่มากกว่าที่สายรัดจะรัดได้ ควรใช้เบาะนั่งแบบ booster seat วิธีการดูว่าเด็กตัวใหญ่เกินไปหรือไม่สามารถดูได้จากว่าศีรษะของเด็กสูงเกินกว่าเบาะนั่งหรือไม่ โดยทั่วไป เด็กจำเป็นจะต้องใช้ booster seat ระหว่างอายุ 4-6 ปี
11.เข็มขัดนิรภัยของรถจะถูกออกแบบมาเพื่อให้นั่งได้ระหว่างกระดูกเชิงกรานและโครงกระดูกของผู้นั่ง เพื่อกระจายแรงกระแทกจากส่วนของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Booster seat จะยกตัวเด็กขึ้นให้สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ได้พอดี
12.โดยปกติเมื่อเด็กอายุ 6 ขวบ หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กสามารถนั่งได้ตัวตรงแล้ว เขาสามารถนั่ง Booster seat แบบไม่ต้องมีพนักพิงได้
13.เด็กจะพร้อมที่จะใช้เข็มขัดนิรภัยของรถโดยไม่ต้องนั่ง Booster seat ได้ความสูงของเด็กจะต้องได้ประมาณ 150 ซม. หรือประมาณ 8 ขวบ (ความสูงของเด็กบางคนจะไม่ไปตามอายุ บางคนมีอายุ 10-11 ขวบถึงจะต้องใช้ Booster seat)
14.เด็กจะพร้อมที่จะใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้ตามปกติเมื่อ
1.เขาสูงเพียงพอที่ขาและเข่าของเขาสามารถนั่งห้อยขาได้เบาะนั่งรถได้พอดี
2.เขาโตพอที่จะสามารถนั่งตัวตรง หลังพิงพนักพิงได้ตรง
3.เข็มขัดนิรภัยของรถส่วนล่างจะต้องรัดได้ตรงส่วนกระดูกเชิงกราน ไม่ใช้รัดตรงท้อง
4.เข็มขัดที่พาดส่วนบ่า จะต้องพาดผ่านมาตรงส่วนหน้าอก ไม่ใช่ผ่านมาตรงแขนหรือคอ
15.สิ่งที่ควรจะพิจารณาเมื่อคุณต้องซ์้อ car seat สำหรับเด็กทารก
1.ควรใช้ carseat แบบหันไปด้านหลังรถ สำหรับน้ำหนักเด็กไม่เกิน 9 กก.
2.แนะนำให้ใช้สายรัดแบบ 5 จุด
3.การปรับระยะของสายรัดควรปรับจากด้านหน้า
4.เด็กที่เกิดใหม่หรือทารก ควรปรับมุมการนั่งให้ได้ 45 องศา (car seat บางรุ่นจะมีขีดแสดงระดับองศา)
5.car seat สำหรับทารกส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่มีที่หิ้วได้
6.สายรัดด้านหลัง โฟมลดการกระแทกและคานป้องกันการกระแทก จะช่วยเพิ่มการป้องกันได้เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
7.car seat ที่ออกแบบสำหรับหันด้านหลังโดยเฉพาะจะเหมาะสำหรับทารก มากกว่ารุ่นที่ออกแบบให้หันหน้าหันหลังได้
8.บางรุ่นจะมีอุปกรณ์เสริมรองเบาะรถ หรือสามารถสวมเข้ากับรถเข็นได้ ควรเลือกให้เหมาะกับวิธีการใช้ของคุณ
16.สิ่งที่ควรรู้เมื่อคุณมองหา car seat รุ่นที่สามารถปรับหันหน้าหันหลังได้สำหรับเด็กทารก
1.รุ่นที่ออกแบบสำหรับหันหลังได้โดยเฉพาะจะปลอดภัยกว่า
2.car seat ความที่จะปรับให้หันหน้า ได้เมื่อส่วนบนของหัวจะต้องถึงส่วนบนของ car seat หรือเมื่อน้ำหนักตัวของทารกประมาณ 13-16 กก.
3.หารุ่นที่มีตัวล็อค 5 จุด และสามารถปรับสายรัดได้จากด้านหน้า
17.เมื่อต้องซื้อ Booster seat สิ่งที่ควารพิจารณาคือ
1.น้ำหนักเด็กถึง 18 กก.
2.ใช้ Booster seat จนถึงน้ำหนักที่ Booster seat กำหนดน้ำหนักไว้ หรือจนกว่าเด็กจะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้ตามปกติ
3.ใช้แบบที่มีพนักพิงและรองส่วนหัว ถ้ารถคุณมีที่นั่งด้านหลังต่ำและไม่มีที่รองหัว
4.Booster seat หลายๆ รุ่นสามารถปรับระดังส่วนหัวได้และมีที่รองเสริมเพื่อความสะบายมากขึ้น
ที่มา ข้อมูล: howstuffwork.com
แปลและเรียบเรียง : mom2kids.com
Logged
Pages: [
1
]
Go Up
Print
« previous
next »
Jump to:
Please select a destination:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> บอร์ดทั่วไป (General Discussion)
-----------------------------
หมวดท่องเที่ยว แผนที่ การเดินทาง
-----------------------------
=> Maps and Travel Information
===> แผนที่ประเทศไทย แผนที่จังหวัด (Thailand Maps)
===> สถานะการน้ำมัน ราคาน้ำมัน (Oil Price)
-----------------------------
ประชาสัมพันธ์ทั่วไป
-----------------------------
=> ประกาศรับสมัครงาน (Employers)
=> ประกาศหางาน (Employees)
=> ประชาสัมพันธ์สินค้า (Sales & marketing)
-----------------------------
จีพีเอส เครื่องติดตามด้วยดาวเทียม (GPS Tracker)
-----------------------------
=> อุปกรณ์จีพีเอสติดตาม (GPS Tracker)
=> กรณีศึกษา: การใช้งานจีพีเอสติดตาม (Case Study)
Loading...