Title: หวั่นถล่มซีเรียราคาน้ำมันพุ่งลิตรละ 4 บาท
Post by: phanwit on September 09, 2013, 11:01:00 AM
หวั่นถล่มซีเรียราคาน้ำมันพุ่งลิตรละ 4 บาท
08 กันยายน 2556 เวลา 11:24 น.
โพสต์ทูเดย์
ไทยพาณิชย์ คาดหากสหรัฐโจมตีซีเรียจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศพุ่งลิตรละ 3-4 บาท
วันที่ 9 ก.ย.นี้ ทั่วโลกได้จับตาว่าสภาคองเกรสของสหรัฐ จะลงมติให้โจมตีซีเรียหรือไม่ โดยเฉพาะคนในวงการน้ำมันและทองคำ
นางศิวาลัย ขันธะชวนะ นักเศรษฐศาสตร์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า หากสหรัฐตัดสินใจโจมตีซีเรีย ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อาจพุ่งสูงถึง 125 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และถ้าสงครามขยายออกไปกระทบผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันในภูมิภาค โดยเฉพาะอิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 1 ใน 10 ของโลก และมีพรมแดนติดกับซีเรียจนเกิดวิกฤตน้ำมันขาดแคลน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะยานขึ้นไปถึง 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่เป็นการขึ้นระยะสั้นเท่านั้น เพราะกลุ่มประเทศโออีซีดีต้องปล่อยสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เพื่อผ่อนคลายความตึงตัวของผลผลิตน้ำมันโลก
อย่างไรก็ตาม การขึ้นของราคาน้ำมันดังกล่าว จะยังผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่งปรับขึ้น 3-4 บาทต่อลิตร ที่ทำให้ราคาสินค้าต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก และทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกปีนี้เพิ่มขึ้น 0.2-0.5% ไปอยู่ที่ 2.5-2.8%
ด้านผู้ค้าทองคำอย่าง นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์แม่ทองสุก กล่าวว่า ตลาดทองคำยังรอคอยการตัดสินใจของสหรัฐว่าจะโจมตีซีเรียหรือไม่ รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะตัดสินใจชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี) หรือไม่ อย่างไร เพราะทั้งสองปัจจัยจะส่งผลต่อค่าเงินเหรียญสหรัฐ การลงทุนในตลาดโลกและราคาทองคำ
ทั้งนี้ ความล้มเหลวในการเจรจานอกรอบประเด็นใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัก โอบามา และประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ผู้นำรัสเซียประกาศว่า หากสหรัฐลงมือโจมตี รัสเซียจะให้การช่วยเหลือซีเรีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสที่ตลาดไนเมกซ์ งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.16 เหรียญสหรัฐ หรือ 2% พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่ 110.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2554 หรือสูงสุดรอบ 28 เดือน ในขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ในงวดส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% หรือ 86 เซนต์ สู่ระดับ 116.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยงวดส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 13.50 เหรียญสหรัฐ หรือ 1% ไปอยู่ที่ 1,386.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
08 กันยายน 2556 เวลา 11:24 น.
โพสต์ทูเดย์
ไทยพาณิชย์ คาดหากสหรัฐโจมตีซีเรียจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศพุ่งลิตรละ 3-4 บาท
วันที่ 9 ก.ย.นี้ ทั่วโลกได้จับตาว่าสภาคองเกรสของสหรัฐ จะลงมติให้โจมตีซีเรียหรือไม่ โดยเฉพาะคนในวงการน้ำมันและทองคำ
นางศิวาลัย ขันธะชวนะ นักเศรษฐศาสตร์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า หากสหรัฐตัดสินใจโจมตีซีเรีย ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อาจพุ่งสูงถึง 125 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และถ้าสงครามขยายออกไปกระทบผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันในภูมิภาค โดยเฉพาะอิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 1 ใน 10 ของโลก และมีพรมแดนติดกับซีเรียจนเกิดวิกฤตน้ำมันขาดแคลน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะยานขึ้นไปถึง 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่เป็นการขึ้นระยะสั้นเท่านั้น เพราะกลุ่มประเทศโออีซีดีต้องปล่อยสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เพื่อผ่อนคลายความตึงตัวของผลผลิตน้ำมันโลก
อย่างไรก็ตาม การขึ้นของราคาน้ำมันดังกล่าว จะยังผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่งปรับขึ้น 3-4 บาทต่อลิตร ที่ทำให้ราคาสินค้าต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก และทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกปีนี้เพิ่มขึ้น 0.2-0.5% ไปอยู่ที่ 2.5-2.8%
ด้านผู้ค้าทองคำอย่าง นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์แม่ทองสุก กล่าวว่า ตลาดทองคำยังรอคอยการตัดสินใจของสหรัฐว่าจะโจมตีซีเรียหรือไม่ รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะตัดสินใจชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี) หรือไม่ อย่างไร เพราะทั้งสองปัจจัยจะส่งผลต่อค่าเงินเหรียญสหรัฐ การลงทุนในตลาดโลกและราคาทองคำ
ทั้งนี้ ความล้มเหลวในการเจรจานอกรอบประเด็นใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัก โอบามา และประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ผู้นำรัสเซียประกาศว่า หากสหรัฐลงมือโจมตี รัสเซียจะให้การช่วยเหลือซีเรีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสที่ตลาดไนเมกซ์ งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.16 เหรียญสหรัฐ หรือ 2% พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่ 110.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2554 หรือสูงสุดรอบ 28 เดือน ในขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ในงวดส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% หรือ 86 เซนต์ สู่ระดับ 116.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยงวดส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 13.50 เหรียญสหรัฐ หรือ 1% ไปอยู่ที่ 1,386.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
