Title: ฮอนด้า “ฟรีด” รถอเนกประสงค์น้องใหม่ ราคาเริ่มต้น 8.94 แสนบาท
Post by: nuch on February 19, 2010, 10:27:30 AM
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2552 11:12 น.
วันนี้ (18 พ.ย.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ฟรีด” รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ ที่ใช้พื้นฐานทางวิศกรรมร่วมกับ แจ็ซ ซิตี้ พร้อมวางเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 1.5 ลิตร 118 แรงม้า แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยราคา 8.94 แสนบาท – 1.07 ล้านบาท
ฟรีด เป็นรถอเนกประสงค์ที่ฮอนด้านำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย ด้วยรูปลักษณ์แบบคอมแพกต์ MPV มิติยาว 4,315 มิลลิเมตร กว้าง 1,700 มิลลิเมตร สูง 1,735 มิลลิเมตร (ความสูงภายในห้องโดยสาร 1,265 มิลลิเมตร) ระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร
ภายในกว้างขวาง โอ่อ่า จุผู้โดยสารได้ 7คนพร้อมการจัดที่นั่งสามแถวแบบ 2-2-3 โดยออกแบบให้เดินถึงกันจากหน้ารถไปหลังรถได้แบบอิสระ ส่วนเบาะนั่งแถวสองดีไซน์แบบ Captain’s seats ปีกเบาะนั่งโอบกระชับเพิ่มความสบาย ขณะเดียวกันเบาะนั่งแถวสามสามารถพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ทั้งนี้เมื่อพับเบาะนั่งแถวสาม ขนาดของห้องสัมภาระจะมีถึง 670 ลิตร หรือยัดถุงกอล์ฟได้ 4 ถุงสบายๆ
ฟรีด ยังเพิ่มความสะดวกด้วยประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติซ้าย-ขวา เปิดได้กว้างสุด 600 มิลลิเมตร ส่วนเด็กน้อยหรือคนชราแรง สามารถเข้าออกห้องโดยสารได้สบายเพราะพื้นรถสูงกว่าพื้นถนนเพียง 410 มิลลิเมตร
ด้านเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 118 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด Shift Hold Control Transmission รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และมีค่ามาตรฐานไอเสียเทียบเท่าระดับยูโร 4 ด้านระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท หลังเป็นทอร์ชั่นบีม
สำหรับเบรกเป็นหน้าดิสก์หลังดรัม พร้อมระบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และเสริมแรงเบรก BA จัดให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่น
อย่างไรก็ตามฮอนด้า แบ่งฟรีดออกเป็น 2 เกรด คือ s (ประตูเปิด-ปิดแมนวล) และ E (ประตูแบบไฟฟ้าสไลด์อัตโนมัติ) โดยรุ่น S ราคาเริ่มต้น 894,500 บาท ส่วนรุ่น E 974,500 บาท และE Sport 1,014,500 บาท ขณะที่รุ่นท๊อปE Navi Sport (ออปชันเครื่องเล่นดีวีดี กล้องมองภาพด้านหลัง) ราคา1,074,500 บาท มีให้เลือก 4 สี คือ สีเงิน อลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพลิชเมทัล (เมทัลลิก) สีดำไนท์ฮอว์ก (มุก) และสีขาวบริลเลียนท์ (มุก)
ฮอนด้า ฟรีด จะเปิดตัวแก่สาธารณชน พร้อมสั่งจองในงานมอเตอร์โชว์ 2009 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 เป็นต้นไป โดยฮอนด้าตั้งเป้าขาย 5,000 คัน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
;) ;) ;)
วันนี้ (18 พ.ย.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ฟรีด” รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ ที่ใช้พื้นฐานทางวิศกรรมร่วมกับ แจ็ซ ซิตี้ พร้อมวางเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 1.5 ลิตร 118 แรงม้า แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยราคา 8.94 แสนบาท – 1.07 ล้านบาท
ฟรีด เป็นรถอเนกประสงค์ที่ฮอนด้านำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย ด้วยรูปลักษณ์แบบคอมแพกต์ MPV มิติยาว 4,315 มิลลิเมตร กว้าง 1,700 มิลลิเมตร สูง 1,735 มิลลิเมตร (ความสูงภายในห้องโดยสาร 1,265 มิลลิเมตร) ระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร
ภายในกว้างขวาง โอ่อ่า จุผู้โดยสารได้ 7คนพร้อมการจัดที่นั่งสามแถวแบบ 2-2-3 โดยออกแบบให้เดินถึงกันจากหน้ารถไปหลังรถได้แบบอิสระ ส่วนเบาะนั่งแถวสองดีไซน์แบบ Captain’s seats ปีกเบาะนั่งโอบกระชับเพิ่มความสบาย ขณะเดียวกันเบาะนั่งแถวสามสามารถพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ทั้งนี้เมื่อพับเบาะนั่งแถวสาม ขนาดของห้องสัมภาระจะมีถึง 670 ลิตร หรือยัดถุงกอล์ฟได้ 4 ถุงสบายๆ
ฟรีด ยังเพิ่มความสะดวกด้วยประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติซ้าย-ขวา เปิดได้กว้างสุด 600 มิลลิเมตร ส่วนเด็กน้อยหรือคนชราแรง สามารถเข้าออกห้องโดยสารได้สบายเพราะพื้นรถสูงกว่าพื้นถนนเพียง 410 มิลลิเมตร
ด้านเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 118 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด Shift Hold Control Transmission รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และมีค่ามาตรฐานไอเสียเทียบเท่าระดับยูโร 4 ด้านระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท หลังเป็นทอร์ชั่นบีม
สำหรับเบรกเป็นหน้าดิสก์หลังดรัม พร้อมระบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และเสริมแรงเบรก BA จัดให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่น
อย่างไรก็ตามฮอนด้า แบ่งฟรีดออกเป็น 2 เกรด คือ s (ประตูเปิด-ปิดแมนวล) และ E (ประตูแบบไฟฟ้าสไลด์อัตโนมัติ) โดยรุ่น S ราคาเริ่มต้น 894,500 บาท ส่วนรุ่น E 974,500 บาท และE Sport 1,014,500 บาท ขณะที่รุ่นท๊อปE Navi Sport (ออปชันเครื่องเล่นดีวีดี กล้องมองภาพด้านหลัง) ราคา1,074,500 บาท มีให้เลือก 4 สี คือ สีเงิน อลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพลิชเมทัล (เมทัลลิก) สีดำไนท์ฮอว์ก (มุก) และสีขาวบริลเลียนท์ (มุก)
ฮอนด้า ฟรีด จะเปิดตัวแก่สาธารณชน พร้อมสั่งจองในงานมอเตอร์โชว์ 2009 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 เป็นต้นไป โดยฮอนด้าตั้งเป้าขาย 5,000 คัน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
;) ;) ;)
