Title: การนอนกลางวัน จำเป็นหรือไม่สำหรับเด็กเล็ก ??? Post by: nuch on September 07, 2010, 11:21:57 AM "คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักว่าการนอนกลางวันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อย
และการตัดเวลานอนกลางวันลงนั้นไม่ได้ช่วยให้เด็กเข้านอนได้เร็วขึ้นในเวลากลางคืน" การนอนหลับ นอกจากจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดแล้ว ยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (growth hormone) หลั่งออกมามาก ดังนั้นเด็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตจึงต้องนอนให้เพียงพอค่ะ ปัญหาทั่วไปที่คุณพ่อคุณแม่ประสบก็คือการพาลูกน้อยเข้านอน ปกติแล้วเด็กวัยเตาะแตะจะนอนวันละประมาณ 12 ชั่วโมง โดยจะงีบ 2 ครั้งในระหว่างวัน แต่เมื่อเด็กโตขึ้น ปริมาณการนอนอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เด็กบางคนอาจลดการนอนกลางวันลง เหลือเพียงวันละครั้ง เพราะฉะนั้นหากลูกน้อยนอนหลับเต็มอิ่ม 12 ชั่วโมงในตอนกลางคืนแล้ว ตอนกลางวันลูกอาจจะไม่อยากนอนยาวอย่างที่พ่อแม่ต้องการ คุณพ่อคุณแม่บางคนเลือกที่จะลดเวลานอนกลางวันของลูกลง โดยหวังว่าเด็กจะรู้สึกเหนื่อยและง่วง เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้านอนในตอนกลางคืน ผลคือ ลูกจะมานอนยาวในช่วงถัดมา และพร้อมที่จะตื่นขึ้นมาเล่นอย่างสดชื่นในตอนกลางคืน (ซึ่งเป็นเวลานอนของพ่อแม่) การไม่นอนกลางวันของลูก จึงก่อให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวกับพ่อแม่ได้ ในทางกลับกัน การปล่อยให้ลูกน้อยนอนดึกจนกระทั่งเขารู้สึกง่วงนอน จะเป็นการลดทอนระยะเวลานอนพักผ่อนที่ลูกสมควรได้รับ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเด็กในวันรุ่งขึ้นได้ ขอแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่หรือพี่เลี้ยงควรจัดหาเวลาที่เหมาะสมให้เด็กนอนกลางวัน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และเมื่อหาเวลาที่เหมาะสมได้แล้ว สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้ลูกน้อยหลับได้ง่ายขึ้น เวลาเข้านอนถือเป็นเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความอบอุ่นกับลูก พูดคุย ร้องเพลงกล่อม หรือเล่านิทานให้ลูกฟัง กิจกรรมเบา ๆ เพื่อความผ่อนคลายเช่นนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกดีๆให้กับเด็ก อีกทั้งยังทำให้การเข้านอนเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินอีกด้วย ให้ลูกมีส่วนร่วมในกิจวัตรก่อนเข้านอน เช่น ให้ลูกเลือกชุดนอนเอง หรือเลือกว่าจะให้คุณแม่อ่านนิทานเรื่องไหนให้ฟัง ควรให้ลูกทานอาหารว่างเบา ๆ ก่อนนอน อย่างเช่นนมอุ่น ๆ เพราะจะช่วยให้เด็กรู้สึกง่วง (แต่ควรให้ก่อนที่ลูกจะแปรงฟันก่อนเข้านอน) เปิดเพลงเบา ๆ และใช้ไฟที่มีแสงอ่อน ๆ ในห้องนอนเพื่อช่วยสร้างอารมณ์ให้เด็กง่วงนอน เพราะสารเมลาโทนินซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อช่วยในการนอนหลับ จะถูกกระตุ้นให้ทำงานในความมืดได้ดี ให้พาลูกเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อสร้างความเคยชินให้ร่างกายของลูกรู้สึกง่วงนอนเมื่อถึงเวลา ใช้ตุ๊กตา หมอน หรือหมอนข้างที่เด็กชอบและคุ้นเคยในขณะที่เขากำลังจะนอน ไม่ควรทำให้ลูกตื่นเต้นก่อนถึงเวลานอน และควรทำให้ห้องนอนของลูกปราศจากเสียงรบกวนใด ๆ เช่น เสียงพูดคุยของสมาชิกในครอบครัวหรือเสียงโทรทัศน์ เด็กจะไม่อยากเข้านอน ถ้าเขารู้ว่ามีอะไรสนุก ๆ น่าตื่นเต้นอยู่ข้างนอก หลีกเลี่ยงการโต้เถียงกันก่อนเข้านอน เนื่องจากอาจจะทำให้ลูกน้อยอารมณ์เสีย และกังวลเกินไปที่จะนอน คุณพ่อคุณแม่ควรทราบว่าเหตุการณ์บางอย่าง เช่น การมีน้องใหม่หรือการจัดแต่งห้องนอนใหม่ อาจมีผลกระทบต่อพฤติกรรมในการนอนของลูกน้อยได้ ถ้าลูกน้อยอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ที่จะนอนโดยไม่ใส่ผ้าอ้อม ไม่ควรต่อว่าลูกถ้าเขาปัสสาวะรดที่นอน เนื่องจากอาจมีผลทำให้ลูกมีความกระวนกระวายใจและนอนไม่หลับ หลีกเลี่ยงของหวานก่อนเข้านอน เนื่องจากของหวานจะไปกระตุ้นให้เด็กรู้สึกตื่นตัวและหลับได้ยาก ไม่ควรเล่าเรื่องน่ากลัวให้ลูกฟังก่อนเข้านอนเพราะจะทำให้ลูกน้อยตกใจกลัวและไม่สามารถหลับได้สนิท หลีกเลี่ยงการให้ลูกน้อยนอนหลับคาขวดนม เพราะทำให้ลูกเสี่ยงต่อโรคฟันผุได้ บทความโดย : พญ.พัฏ โรจน์มหามงคล |