Title: ดาวเทียมใหม่รับภัยพิบัติจัดระเบียบทรัพยากร Post by: phanwit on April 01, 2011, 12:38:18 AM ดาวเทียมใหม่รับภัยพิบัติจัดระเบียบทรัพยากร
วันศุกร์ ที่ 01 เมษายน 2554 เวลา 0:00 น. เดลินิวส์ ประเทศไทยมีดาวเทียมใหม่เพิ่มอีก 1 ดวง เพื่อสำรวจทรัพยากร การเกษตร และเตือนภัยพิบัติ ซึ่งแม้จะเป็นน้องเล็กในวงการ แต่ประสิทธิภาพ ความคล่องตัว กลับเป็นความหวังในการแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองได้อย่างฉับพลันทันใดทีเดียว เอสเอ็มเอ็มเอส (SMMS) เป็นชื่อทางการของดาวเทียมดวงนี้ มาจากชื่อเต็ม “สมอล มัลติ มิสชั่น แซตเทิลไลต์” (Small Multi Mission Satellite) หรือดาวเทียมเล็กที่มีขีดความสามารถหลากหลาย ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างคณะฯกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ดาวเทียมนี้ มีสถานีรับส่งที่จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 1 เมษายน โดย รศ.ดร.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี เป็นประธาน ที่สถานีรับสัญญาณดาวเทียม เอสเอ็มเอ็มเอส ภาคพื้นดิน ที่ดาดฟ้า ชั้น 13 อาคารชูชาติ กำภู คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน รศ.ธัญญะ เกียรติวัฒน์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่าจะเป็นสถานีแห่งแรกของประเทศไทยที่รับสัญญาณและประมวลผลโดยตรงจากดาว เทียมเอสเอ็มเอ็มเอส “สามารถรับสัญญาณภาพแบบเรียลไทม์ หรือชั่วขณะเวลาเดียวกัน เป็นดาวเทียมที่มีแตกต่างจากดวงอื่น เพราะมีวิถีโคจรใกล้ผิวโลก อยู่สูงเหนือพื้นดิน 650 กิโลเมตร จึงได้ภาพชัดเจน วนผ่านมาประเทศไทยวันละ 2 รอบ รอบละ 15 นาที จึงได้ข้อมูลภาคการเปลี่ยนแปลงพื้นดินครบถ้วน” ข้อมูลจากดาวเทียม นำมาบันทึกและแปรผลใช้ประโยชน์ได้หลายทาง เช่น ด้านการเกษตร ก็ดูสีของพืชผลที่แตกต่าง จะเห็นสีของนาข้าว หรือข้าวโพด เพื่อวิเคราะห์ว่าแปลงข้าวหรือข้าวโพดนั้นมีจุดด่างหรือการเกิดโรคหรือไม่ เป็นพื้นที่กว้างเท่าใด จึงสั่งแก้ไขได้ทันเวลา ข้าวเริ่มสุก เริ่มเก็บเกี่ยวก็สามารถเก็งตลาด คาดการณ์อนาคตของผลผลิตได้ คุณสมบัติพิเศษอีกด้านของดาวเทียม คือเอียงถ่ายภาพ 3 มิติได้ จึงเหมาะกับงานด้านการชลประทาน แทนที่จะเห็นภาพลำน้ำจากมุมสูงอย่างเดียว ก็มองมุมอื่นเห็นความสูงของระดับน้ำ ทั้งใต้เขื่อนเหนือเขื่อน เห็นการเคลื่อนตัวของก้อนน้ำได้จึงประมวลผลได้ว่าจะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมที่ ไหน เมื่อไหร่ ถ้าจะมีการบุกรุกทำลายป่าก็ตรวจสอบแก้ไขได้ทัน แผ่นดินไหวตอนเช้า ช่วงบ่ายก็ได้ภาพความเสียหาย ผู้เชี่ยวชาญบอกความแตกต่างของดาวเทียมเอสเอ็มเอ็มเอสกับดวงอื่นที่ประเทศ ไทยเป็นเจ้าของว่า เป็นดาวเทียมที่มีวงโคจรวิถีต่ำ จึงได้ความคมชัดของภาพมากกว่า ใช้ช่องรับสัญญาณเคเอแบนด์(Ka-Band) สื่อสารด้วยย่านความถี่ไมโครเวฟ ซึ่งสูงกว่าย่านเคยูแบนด์ (Ku-Band)และเอ็กซ์-แบนด์(X-Band) ที่ไม่มีใช้ในเชิงพาณิชย์มากนัก การส่งสัญญาณจึงทำได้ในพื้นที่กว้างและไม่โดนแทรก ทั้งยังเป็นดาวเทียมอเนกประสงค์ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าของ ทางมหาวิทยาลัยร่วมลงทุนแบบจ่ายครั้งเดียวจบ มูลค่า 60 ล้านบาท การถ่ายภาพ จะยิงภาพทีเดียวยาวจากภาคเหนือจดภาคใต้ ขนาดกว้าง 700 กิโลเมตร ความละเอียดจุดละ 30 เมตร ซึ่งทำให้ภาพเชิงภูมิศาสตร์ เห็นทุ่งนากว้างแต่ไม่เห็นรถจอด เทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิล (www.google.com) ความละเอียดจุดละ 2 เมตร จึงมองเห็นหลังคาบ้านได้ แต่ก็จะได้ภาพจำนวนน้อยกว่าคือ ครั้งละ 20 กิโลเมตร ส่วนดาวเทียมธีออส ถ่ายได้ความกว้าง 90 กิโลเมตร กว่าจะทั่วประเทศไทย ก็ต้องใช้เวลา 1 เดือน การใช้ประโยชน์ไม่ได้จำกัดอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่นด้านการเกษตร หรือแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ นำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ดาวเทียมก็มีข้อจำกัด บันทึกภาพให้เห็นความเปลี่ยนแปลงได้เฉพาะเวลากลางวันที่มีแดดส่อง ไม่เป็นไรกลางคืนดูไม่ได้ รุ่งขึ้นวันใหม่ก็รู้ผล. วีระพันธ์ โตมีบุญ VeeraphanT@Gmail.com http://twitter/vp2650 |