PanteeTHAI.com Map & GPS forum
November 27, 2024, 11:16:10 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: GPShttp://gps.panteethai.com/

เครื่องติดตามตัว GPS/GSM/GPRS ใช้สำหรับติดตามรถยนต์ (ดูระดับน้ำมัน การเปิดแอร์ สตาร์ทเครื่อง แถมฟรี SIM Data) ติดตามบุคคล สัตว์เลี้ยง ติดตามทรัพย์สิน รถตู้ รถบรรทุก หัวลาก รถขนส่ง รถส่วนบุคคล โทร. 08-1932-3520 (คุณบอย)
 
   Home   Help Search Login Register  
Pages: [1]   Go Down
  Print  
Author Topic: ทางหลวง จัดเต็ม "ผ้ายันต์-ข้อมูล" ขับฉลุย" สงกรานต์56" เตือน 10 จุดเสี่ยงอันตราย  (Read 3244 times)
phanwit
Administrator
Hero Member
*****
Posts: 902



WWW
« on: April 12, 2013, 05:33:03 AM »

ทางหลวง จัดเต็ม "ผ้ายันต์-ข้อมูล" ขับฉลุย" สงกรานต์56" เตือน 10 จุดเสี่ยงอันตราย !!
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 11:15:48 น.
(ที่มา:มติชนรายวัน 11 เมษายน 2556)

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมเพื่อเยี่ยมญาติ หรือเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวต่างจังหวัด พร้อมๆ กันเป็นจำนวนมาก

มักจะก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด รวมทั้งเกิดอุบัติเหตุในเส้นทางหลวงสายหลักๆ ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ามหาศาลประจำทุกปี กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดย พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รอง ผบก.ทล. เตรียมอำนวยความสะดวกพร้อมกับดูแลความปลอดภัยบนถนนหลวง ได้สำรวจและจัดทำข้อมูล 10 จุดเสี่ยง หรือบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรืออุบัติเหตุรุนแรงบนทางหลวง เพื่อเตือนให้ประชาชนระมัดระวังระหว่างเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบด้วย

1.ช่วงกิโลเมตร (กม.) 77-78 ทล.1 ถนนพหลโยธิน ประชาชนใช้เดินทางสู่ภาคเหนือ บริเวณ ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นทางโค้ง

2.กม.27-30 ทล.2 ถนนมิตรภาพ ประชาชนใช้เดินทางสู่ภาคอีสาน บริเวณ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นทางลงเขาลาดชันคดโค้งหักมุมต่อเนื่อง

3.บริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ ทางหลวงหมายเลข 35 ถ.พระราม 2 ประชาชนใช้เดินทางสู่ภาคใต้ ระหว่าง กม.18-18 (ขาเข้าและขาออก) เป็นช่องทางเบี่ยงอยู่ในระหว่างก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ

4.โค้งหัวสะพาน (ขาล่องใต้) ทล.4 กม.151-152 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นทางโค้ง

5.ทางหลวงหมายเลข 331 กม.125-126 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นทางลงเนินและมีทางแยกซับซ้อนทำให้รถที่วิ่งลงเนินมาเมื่อเจอกับรถที่ออกจากทางแยก ซอย ไม่สามารถหยุดรถได้ทันจะเกิดเหตุชนกัน

6.ทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์-ปักธงชัย ระหว่าง กม.42-46 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สภาพเป็นทางขึ้นลงเขาลาดชัน โค้งตัวเอส มี 2 ช่องจราจร

7.ทางหลวงหมายเลข 12 กม.14-15 (เนินห้วยหินฝน) ต.แม่ปัก อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นทางโค้งลงเนิน ชันและหักศอก

8.ทางหลวงหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ระหว่าง กม.30-40 ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เป็นทางลงเขา ไม่มีแสงสว่าง ผู้ใช้รถมักจะหลับในทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

9.ทางหลวงหมายเลข 125 เลี่ยงเมืองสุโขทัย-ตาก ระหว่าง กม.26-27 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย เป็นทางโค้งมีเกาะกลางถนน

10.ทางหลวงหมายเลข 348 กม.42-43 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เป็นทางโค้งซ้ายและโค้งขวา รูปตัวเอส มีเส้นประให้แซงในช่วงกลางตัวเอส

นอกจากให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังใน 10 จุดเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงและบ่อยครั้งแล้ว

ตำรวจทางหลวงยังจัดทำโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุไว้ด้วย

โดย พ.ต.อ.ดิเรกเล่าว่า "โครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน หรือช่วง 7วันอันตราย′ จัดทำ ′ผ้ายันต์กันภัย ตั้งใจขับขี่′ ปลุกเสกจาก หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เพื่อให้ประชาชนแคล้วคลาดปลอดภัยในการเดินทาง

"ด้านหลังผ้ายันต์มีระบุข้อหาหลักสาเหตุของอุบัติเหตุ 7 ข้อ คือ 1.เมาแล้วขับ 2.ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 3.ไม่สวมหมวกนิรภัย 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 6.โทรศัพท์ขณะขับรถ และ 7.ห้ามดื่มสุราบนรถ รวมทั้งระบุโทษของผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย

"จัดทำผ้ายันต์ทั้งสิ้น 13,000 ผืน แจกให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์

"อีกหนึ่งโครงการ ′ยาดมแก้ง่วง หายห่วง ปลอดภัย′ แจกจ่ายให้ประชาชนที่ขับรถแล้วมีอาการง่วงนอนได้สูดดม เพื่อกระตุ้นให้สดชื่น กระชุ่มกระชวยและตาสว่าง สามารถขับไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งขอเตือนว่าอย่าขับรถเร็วเกินกฎหมายที่กำหนด และดื่มสุราขณะขับรถ ซึ่งตำรวจทางหลวงจะจับกุมอย่างจริงจัง"

ส่วนมาตรการรองรับการจราจรที่หนาแน่นในการเดินทาง พ.ต.อ.ดิเรกบอกว่า จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจัดการจราจรในจุดที่มีปัญหาติดขัด โดยเฉพาะเส้นทางพหลโยธิน ระหว่าง กม.ที่ 52-57 ขาออกจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) และถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ กม.ที่ 20-30 ตั้งแต่ทับกวาง ต่อเนื่องขึ้นเนินเขา อีกจุดคือถนนพหลโยธิน กม.ที่ 85 (คลองระพีพัฒน์) มีการก่อสร้างสะพาน เป็นเหตุให้ต้องปิดช่องทางคู่ขนานทั้งขาเข้าและขาออก และบริเวณต่างระดับแพะโคก (ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี) ที่กำลังซ่อมผิวถนน

นอกจากนี้ยังมี 2 เส้นทางที่มีความเสี่ยงต้องระมัดระวังในการใช้ทางคือ ช่วงตาก-แม่สอด เป็นทางโค้งภูเขา มีความลาดชันสูง และเส้นทางกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ระหว่าง กม.42-46 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สภาพเป็นทางขึ้นลงเขาลาดชัน โค้งตัวเอส ทั้งสองจุดได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตั้งเต็นท์คอยอำนวยความสะดวกพร้อมติดตั้งป้ายเตือนก่อนถึงจุดแล้ว

หากระหว่างเดินทางหากประชาชนเกิดอาการง่วงนอน หรือเหนื่อยเมื่อยล้า สามารถแวะใช้บริการได้ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวง 176 จุดทั่วประเทศ โดยจัดเตรียมห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ น้ำดื่ม ผ้าเย็น กาแฟ และที่พักผ่อนนอนหลับได้ รวมทั้งบริการสอบถามเส้นทางได้ที่คอลเซ็นเตอร์ตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่กรมทางหลวงได้เตรียมพร้อมไว้บริการผู้ใช้รถใช้ถนนเช่นกัน

นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) บอกว่า สั่งให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่รับงานปรับปรุงทางทุกแห่งหยุดดำเนินงานก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน จุดไหนที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ทำเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ไว้อย่างชัดเจน

พร้อมแนะนำเส้นทางไปสู่ภาคต่างๆ ภาคเหนือ 1.กรุงเทพฯมุ่งหน้า จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตามถนนสายเอเชีย เข้าอ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ มุ่งหน้าไป จ.พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย และอุตรดิตถ์ได้ 2.จากกรุงเทพฯไปตามถนนพหลโยธิน เข้าสระบุรี ลพบุรี ผ่าน อ.ตากฟ้า ก็ไปพิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ได้เช่นกัน 3.กรุงเทพฯไปตามถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ผ่านสุพรรณบุรี เข้าถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ผ่านชัยนาท เข้า อ.พยุหะคีรี ถนนพหลโยธิน ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เพื่อไปกำแพงเพชร ตาก ลำปาง และเชียงใหม่

ภาคอีสานมี 3 เส้นทาง คือ 1.จากกรุงเทพฯไปตามถนนพหลโยธิน เข้าสระบุรี ไปตามถนนมิตรภาพ ผ่าน อ.แก่งคอย ปากช่อง สีคิ้ว จนถึงนครราชสีมา สามารถเดินทางไปได้ทุกจังหวัดในภาคอีสาน 2.จากกรุงเทพฯไปตามถนนรังสิต-นครนายก เข้า จ.นครนายก ไปตามถนนนครนายก-บ้านนา เข้า อ.บ้านนา เลี้ยวซ้ายไปตามถนนแก่งคอย-บ้านนา เพื่อเข้าสู่ อ.แก่งคอย จากนั้นเลี้ยวขวาออกถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไปตามเส้นทางแรก และ 3.จากกรุงเทพฯไปฉะเชิงเทรา เข้า อ.พนมสารคาม ผ่าน อ.กบินทร์บุรี วังน้ำเขียว อ.ปักธงชัย ถึงนครราชสีมาเช่นกัน

ภาคใต้ 3 เส้นทาง คือ 1.จากกรุงเทพฯไปตามถนนพระราม 2 ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แยกวังมะนาว เข้าถนนเพชรเกษม ที่ จ.เพชรบุรี เดินทางต่อไปชะอำ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และจังหวัดทางภาคใต้ 2.จากกรุงเทพฯไปตามถนนบรมราชชนนี เข้าถนนเพชรเกษม ผ่าน อ.นครชัยศรี ไปนครปฐม แยกวังมะนาว เข้าเพชรบุรี ไปยังจังหวัดภาคใต้ได้ทั้งหมด และ 3.จากกรุงเทพฯไปตามถนนเพชรเกษม เข้า อ.สามพราน ผ่าน อ.นครชัยศรี ขึ้นต่างระดับแล้วก็ไปตามเส้นทางที่ 2 ได้เหมือนกัน

เหล่านี้คือการเตรียมการของตำรวจทางหลวงและกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องหรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงแค่การป้องกันเท่านั้น

แต่หากทุกคนต้องการเดินทางถึงจุดปลายทางอย่างปลอดภัยเพื่อจะได้เจอหน้าคนที่รอคอยอยู่ทางบ้าน หรือท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน

ความไม่ประมาทและมีสติในการขับขี่รถเท่านั้นที่จะช่วยให้ทุกคนถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย !!
Logged

GPShttp://gps.panteethai.com/ จีพีเอส ติดตามรถเก๋ง..รถกระบะ..รถบัส..รถตู้..รถบรรทุก..หัวลาก..ควบคุมและแสดงความเร็ว..วัดน้ำมัน..วัดอุณหภูมิ.. GPS Tracker..

phanwit
Administrator
Hero Member
*****
Posts: 902



WWW
« Reply #1 on: April 12, 2013, 05:38:36 AM »

ตำรวจทางหลวง แนะการเดินทางและเส้นทางเลี่ยง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
วันที่ข่าว : 11 เมษายน 2556

ตำรวจทางหลวง แนะการเดินทางและเส้นทางเลี่ยง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

พลตำรวจตรีพงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง แนะนำเส้นทางสำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าหลายเส้นทางการจราจรจะติดขัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ (11 เม.ย. 56)

อาทิ บริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างสะพานข้ามคลองระพีพัฒน์ โดยกรมทางหลวงปิดช่องทางคู่ขนานทั้งสองฝั่งทั้งไปและกลับ เพื่อปรับปรุงพื้นถนน จึงแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ก่อนถึงคลองระพีพัฒน์ ประมาณ กิโลเมตรที่ 83 จะมีทางเบี่ยงซ้าย ไปยังถนนพหลโยธินสายเก่าแทน ซึ่งสามารถใช้เดินทางไปสู่ภาคเหนือได้ เพราะถนนกว้าง รถน้อย ใช้ความเร็วได้ ระยะทางใกล้เคียงกัน หากจะเดินทางออกไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนะนำให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์-ปักธงชัย และต่อไปยังถนนมิตรภาพ เส้นทางนี้จะสะดวกกว่า แต่หากการจราจรติดขัดมากจะมีการเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถ จนกว่าการจราจรจะคลี่คลาย

ส่วนจุดที่มีปัญหา คือเส้นทางหลวงหมายเลข 318 ดอยสะเก็ด-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากประชาชนอาจไม่ชินเส้นทาง และไม่ปฏิบัติตามป้ายเตือนรถวิ่งมาด้วยความเร็วเต็มที่ทำให้แหกโค้ง และตกเหวเป็นจำนวนมาก จึงได้แก้ไขด้วยการติดป้ายเตือนเพิ่มขึ้น และติดตั้งตู้ตำรวจด้วย รวมทั้งช่วงถนนมิตรภาพขาล่อง ระหว่างอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปอำเภอทับกวาง จังหวัดสระบุรี ที่รถมักจะใช้ความเร็วสูง ทั้งที่มีป้ายเตือนว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อย จึงขอให้ประชาชนปฎิบัติตามป้ายเตือนและกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
Logged

GPShttp://gps.panteethai.com/ จีพีเอส ติดตามรถเก๋ง..รถกระบะ..รถบัส..รถตู้..รถบรรทุก..หัวลาก..ควบคุมและแสดงความเร็ว..วัดน้ำมัน..วัดอุณหภูมิ.. GPS Tracker..
Pages: [1]   Go Up
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
แผนที่ไทย.คอม - PanteeTHAI.com

 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!